เส้นทางชีวิตของหมอพื้นบ้าน ( ๑ )

พ่อสำลี ปูนขุนทด พ่อหมอพื้นบ้านแห่งอำเภอเทพารักษ์ จังหวัดนครราชสีมา

สาธารณสุขอำเภอเทพารักษ์ ร่วมสำรวจแปลงผักหวานป่าที่สวนข้างบ้านพ่อสำลี

ซึ่งพ่อสำลีใช้สูตร 5 : 1

คือปลูกผักหวาน ๕ แถว ต่อต้นมะขามเทศ ๑ แถว

ป่าชุมชน ช้างตกตาย แหล่งพันธุ์พืชสมุนไพรเพื่อการอนุรักษ์และเรียนรู้ เนื้อที่ ๑,๐๗๕ ไร่

มีพ่อสำลีและชมรมผู้สูงอายุคอยดูแล

กล้วยวัว สมุนไพรประจำป่านี้ ใช้เข้ายาแก้หอบหืด

บัวบกโคก สรรพคุณทางยามีมากมาย เป็นยาเย็นแก้ไข้ ใช้ทำวุ้นได้ดีกว่ากรุงเขมา

เราดูแลงานคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยของจังหวัดนครราชสีมาอยู่
หน้าที่โดยตรงของเราคือสืบค้น รวบรวมและหากระบวนการสนับสนุนส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
สืบค้นหมอพื้นบ้านที่นับวันจะแก่เฒ่าล้มหายตายจากไปพร้อมกับภูมิปัญญาอันมีค่า
รวบรวมตำรับตำรา คัมภีร์ใบลานที่นับวันแต่จะผุพังไป
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสไปเยี่ยมหมอพื้นบ้านท่านหนึ่งชื่อพ่อสำลี ปูนขุนทด อยู่ในอำเภอเทพารักษ์

พ่อสำลีเป็นหมอพื้นบ้านมาประมาณ ๓๐ - ๔๐ ปี โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากความเจ็บป่วยของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นอาการไม่รู้สาเหตุจนร่างกายน๊อคไปเฉย ๆ โดนงูพิษกัด และครั้งสุดท้ายก่อนเกิดจุดเปลี่ยนของชีวิตคือเป็นนิ่วในท่อไต แล้วไม่มีเงินรักษาถูกหมอและพยาบาลไล่ออกมาจากโรงพยาบาลเดินร้องไห้กอดคอกันออกมาจากโรงพยาบาลกับเมีย ตั้งใจจะกลับมาตายที่บ้าน

แต่บังเอิญก่อนหน้านั้นเจอเข้ากับคนๆหนึ่งที่บอกสูตรยาสมุนไพรให้ด้วยความสงสารหมดหนทางเลือกเนื่องจากไม่มีเงินรักษาตัวด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันจึงลองใช้สมุนไพรดูผลปรากฏว่าอาการดีขึ้นจนหายจากโรคดังกล่าว ตั้งแต่นั้นมา พ่อสำลีก้อได้ศึกษาเรื่องสมุนไพรอย่างจริงจังและรักษาผู้เจ็บป่วยตามมีตามเกิดช่วยเหลือชุมชนมาโดยตลอด ถึงตอนนี้จากการสัมภาษณ์ถึงสิ่งที่พ่อหมอพื้นบ้านคนนี้อยากได้รับการช่วยเหลือพ่อหมอบอกว่าอยากได้เครื่องบดสมุนไพรเนื่องจากทุกวันนี้ต้องเอาสมุนไพรไปจ้างเค้าบดที่อำเภอลำนารายณ์แล้วถูกเปลี่ยนยาหรือไม่บางทีก้อถูกขโมยสูตรยาไป

เรารู้ว่าโลกนี้ไม่มีความยุติธรรม การจะทำให้คนทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่เท่ากันนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่เราเชื่อเรื่องความมีเมตตาของคนไทยเราเชื่อว่ามีคนใจดีมีเมตตามากมายที่พร้อมจะช่วยเหลือกัน ตอนนี้พ่อสำลีอยากได้เครื่องบดสมุนไพรจะเป็นรุ่นไหนแบบไหนก้อได้

เพียงเพื่อจะได้นำมาใช้บดสมุนไพรสำหรับดูแลผู้เจ็บป่วยต่อไป ใครที่มีกำลังทรัพย์หรือแม้แต่อยากจะส่งกำลังใจให้พ่อสำลี

ก้อติดต่อไปได้ที่เบอร์ 0809225571 หรือจะแวะเยี่ยมชมสวนสมุนไพร สวนผักหวาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้หรือซื้อสมุนไพรกับพ่อสำลีได้พ่อสำลีเชี่ยวชาญเรื่องสมุนไพรเป็นอย่างดีโดยเฉพาะสมุนไพรในป่าเต็งรังที่เป็นป่าส่วนใหญ่ของภาคอีสานและพร้อมจะถ่ายทอดความรู้ต่างๆให้แก่ผู้สนใจ ปัจจุบันพ่อสำลีเป็นวิทยากรประจำให้แก่กรมป่าไม้

ช่วยกันคนละไม้ละมือเพื่ออนุรักษ์และสนับสนุนภูมิปัญญาไทยนะคะ

เขาหินปูนแห่งความทรงจำ

ไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตต้องมาทำอะไรอย่างนี้

เคยนึกเอาไว้ว่าฉันจะไม่มีวันเดินป่าเด็ดขาด เพราะอะไรน่ะเหรอ มีเหตุผลง่าย ๆ สองข้อ คิดว่าร่างกายของตัวเองมีขีดจำกัดรึพูดง่ายๆไม่เคยคิดว่าจะทำได้ ข้อสองข้อนี้สำคัญมาก ฉันเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องการจำทางมาตั้งแต่เด็ก บ่อยครั้งที่เข้าซอยบ้านตัวเองผิด และมากกว่าหนึ่งครั้งหลงอยู่ในสวนหลังบ้านเนื้อที่สองไร่กว่าของตัวเอง จำไม่ได้ว่าต้องเดินออกไปทางไหน จะร้องตะโกนให้คนช่วยรึก้ออาย นี่มันแค่สวนหลังบ้าน เลยเดินตัดทางแล้วแต่มันจะโผล่ไปทางไหนจนเจอท่อพีวีซีที่พ่อฝังไว้ที่สวนหลังบ้านเลยเดินตามท่อพีวีซีออกมา

เพราะฉะนั้นการเดินป่าจึงเป็นเรื่องน่ากลัวมากสำหรับฉัน แต่พอมาถึงวันหนึ่งฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะทีมเราจะต้องสำรวจกวาวเครือ และพวกน้องๆ ไม่ยอมให้ฉันนั่งรอที่ชายป่า

เอาก้อเอาลองดูทั้งที่กลัวมากกังวลมากจนนอนไม่หลับ ทริปแรกในชีวิตฉันไกด์เดินป่าเป็นพระที่ท่านดูแลวัดที่อยู่เชิงเขา ฉันก้าวเดินตามท่านไปติดๆก้าวต่อก้าว ท่านเหยียบลงตรงไหนพอท่านถอนเท้าออก ฉันเหยียบตามทันที ก้าวไปข้างหน้าสูงขึ้น ๆ ไม่ยอมหยุด ความกลัวมีมากกว่าความเหนื่อย พอท่านชวนพัก หันหลังกลับไปดูปรากฏว่าเราสองคนทิ้งช่วงทีมงานเกือบร้อยเมตรต้องหยุดรอกว่าคนอื่นๆจะไต่มาหน้าเหลืองเชียว

อดกระซิบถามท่านไม่ได้ว่า (อาจารย์ไม่เหนื่อยเหรอคะไม่เห็นได้ยินเสียงอาจารญ์หอบเลย" ท่านตอบว่า "เหนื่อยซิ แต่แอบหอบอายโยม" ฮ่า ฮ่า ฮ่า

( มีต่อ )