วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ว่านเสน่ห์จันทร์ทองรวบรวมโดย ร.ต.สวิง กวีสุทธิ์ ร.น. พิมพ์เมื่อพ.ศ.๒๕๐๘

ว่านเสน่ห์จันทร์ทองรวบรวมโดย ร.ต.สวิง กวีสุทธิ์ ร.น. พิมพ์เมื่อพ.ศ.๒๕๐๘ กล่าวว่า "ว่านเสน่ห์จันทร์ทอง ลักษณะลำต้นใบเหมือนหญ้าแห้วหมู ดอกมีเกษรละเอียดเหลืองอ่อน ก้านดอกยาว หัวเหมือนกระเทียมเล็กๆมีกลิ่นหอมเหมือนน้ำมันจันทร์อ่อนๆสรรพคุณปลูกไว้ เสน่ห์มาหนิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรือง"

ว่านเสน่ห์จันทร์เขียวรวบรวมโดย ร.ต.สวิง กวีสุทธิ์ ร.น. พิมพ์เมื่อพ.ศ.๒๕๐๘

ว่านเสน่ห์จันทร์เขียวรวบรวมโดย ร.ต.สวิง กวีสุทธิ์ ร.น. พิมพ์เมื่อพ.ศ.๒๕๐๘ กล่าวว่า "ลักษณะเหมือนเสน่ห์จันทร์ขาวทุกอย่าง ผิดกันที่ตรงเสน่ห์จันทร์เขียวนั้น ใบและก้านเป็นสีเขียว สรรพคุณเช่นเดียวกับว่านเสน่ห์จันทร์ขาว"

ว่านเสน่ห์จันทร์แดงรวบรวมโดย ร.ต.สวิง กวีสุทธิ์ ร.น. พิมพ์เมื่อพ.ศ.๒๕๐๘

ว่านเสน่ห์จันทร์แดงรวบรวมโดย ร.ต.สวิง กวีสุทธิ์ ร.น. พิมพ์เมื่อพ.ศ.๒๕๐๘ กล่าวว่า " ว่านเสน่ห์จันทร์แดง ลักษณะลำต้นเหมือนว่านเสน่ห์จันทร์ขาวทุกอย่าง ผิดกันที่ตรงเสน่ห์จันทร์แดงนั้นใบและก้านเป็นสีลูกหว้าอ่อน สรรพคุณเช่นเดียวกับว่านเสน่ห์จันทร์ขาว"
ไม่ยักรู้ว่าหารูปในเน็ทยากอย่างนี้  ว่านเสน่ห์จันทร์ทั้ง๓  คือจันทร์ขาว จันทร์แดง จันทร์เขียว จริงๆเป็นว่านหลักที่เล่นกันมานานมากๆแล้ว  มาช่วงหลังมีการตั้งชื่อจนออกมาเยอะแยะไปหมด  จันทร์แดงเป็นไม้ที่เลี้ยงง่ายแตกกอเก่งสวยมากๆถ้าปลูกเป็นกอใหญ่ ตามร้านค้าเราจะเห็นกระถางว่านเสน่ห์จันทร์แดงที่ปลูกไว้แตกกอใหญ่สวยงามมาก  ถ้าจะเล่นว่านทั้งทีเล่นว่านตามตำราโบราณกันเถอะ ไม้ตั้งชื่อใหม่จะมีประโยชนือะไร

ว่านเสน่ห์จันทร์ขาวรวบรวมโดย ร.ต.สวิง กวีสุทธิ์ ร.น. พิมพ์เมื่อพ.ศ.๒๕๐๘

ว่านเสน่ห์จันทร์ขาวรวบรวมโดย ร.ต.สวิง กวีสุทธิ์ ร.น. พิมพ์เมื่อพ.ศ.๒๕๐๘ กล่าวว่า  " ว่านเสน่ห์จันทร์ขาว  ลักษณะลำต้นคล้ายบอน ใบเหมือนใบโพธิ มีลายเส้นใบขาว ก้านขาวยาวแต่เล็กกว่าบอน กลิ่นหอมเหมือนน้ำมันจันทร์ สรรพคุณปลูกไว้กับบ้าน เป็นเสน่ห์มหานิยม"
ว่านเสน่ห์จันทร์ขาว เป็นไม้เลี้ยงยากตายง่าย ลักษณะดูง่าย  ราคาในท้องตลาดคงตัวไม่ถูกนักเพราะความเลี้ยงยากขยายพันธุ์ยาก เห็นว่ามีการเอาเสน่ห์จันทร์เขียวซึ่งบางต้นมีลักษณะคล้ายกัน ตอนต้นเล็กๆก้านมีสีขาวมาหลอกขายเป็นเสน่ห์จันทร์ขาว  ต้องระวัง

ว่านเสน่ห์จันทร์รวบรวมโดย ร.ต.สวิง กวีสุทธิ์ ร.น. พิมพ์เมื่อพ.ศ.๒๕๐๘

ว่านเสน่ห์จันทร์รวบรวมโดย ร.ต.สวิง กวีสุทธิ์ ร.น. พิมพ์เมื่อพ.ศ.๒๕๐๘ กล่าวไว้ว่า "ว่านเสน่ห์จันทร์  ใบเหมือนใบโพธิ ก้านคล้ายต้นอุตพิต หลังใบขาวเป็นนวล ยอดเหมือนต้นพลับพลึง เมื่อพบว่านนี้ก่อนที่จะขุด ท่านว่าจงจัดเครื่องสักการะบูชาดังกล่าวแล้วจำศีลภาวนาถือความสัตย์ ทำกระทง ๓ มุม ใส่หมากพลู ๓ คำ เบี้ย ๑ เบี้ย พลีกรรมเสียก่อน แล้วเสกด้วยพุทธคุณ "นะโมพุทธายะ" ๓-๗ ราดให้รอบต้น พรมตั้งแต่ยอดลงมาให้ทั่วแล้วจึงขุดเอาว่านนั้นมาแกะเป็นรูปเบี้ย เพื่อจะปลุกเสก ก่อนจะปลุกเสกเบี้ยนั้น จงทำน้ำมนต์เสกด้วย  "อิติปิโส ฯลฯ ภควาติ" ๑๐๐๐ คาบ ชำระล้างตัวเสียก่อน แล้วจึงเอาเบี้ยนั้นใส่ลงไปในขัน เอาน้ำมันหอมใส่ให้ท่วมเบี้ยว่านนั้น เบี้ยว่านที่จะปลุกเสกนี้ต้องปลุกเสกในพระอุโบสถ มีบายศรีซ้ายขวา จงเสกด้วยพุทธคุณ "อิติปิโส ฯลฯ ภควาติ" จนกว่าเบี้ยว่านนั้นเดินเวียนเป็นทักษิณาวัตรไปรอบๆปากขัน จะประเสริฐแล ถ้าจะให้เป็นเสน่ห์แก่หญิงและชาย ให้แกะเป็นรูปท่าท้าวพระยามหาอำมาตย์ กรมหลวงฝ่ายใน และรูปพระสงฆ์ใส่ลงในขันสัมฤทธิ์ แล้วเอาน้ำมันหอมใส่ลงเสกด้วย "อิติปิโส ฯลฯ ภควาติ" ๑๐๐๐ คาบ นะโมพุทธายะ ๑๐๐๐ คาบ เสกไปจนกว่าน้ำมันนั้นเดินเวียนเป็นทักษิณาวัตรไปรอบขัน  ถ้าจะไปที่ใดๆเข้าหาท่านท้าวพระยาหรือเจ้านาย  จงเอาน้ำมันนั้นทาหน้าผากแล้วไปหา จะรักตัวเราเหมือนบุตร จะปรารถนาสิ่งใดก็สมความปรารถนา แม้แต่กลิ่นน้ำมันที่เราใช้ส่งกลิ่นไปถึงที่ไหน ก็มีความเมตตาเอ็นดูเราเกิดขึั้นด้วย ถ้าจะให้อยู่คงแคล้วคลาดจังงังให้เอารูปนั้นห่อผ้าโพกไว้บนศีรษะ เอาน้ำมันนั้นทาที่กระหม่อมและหน้าผาก แล้วบริกรรมด้วยพุทธคุณ "นะโมพุทธายะ" ๓-๗ คาบ  ใครจะทำอะไรเรามิได้เลย ย่อมแคล้วคลาดไปหมด"