ศูนย์ศึกษารวบรวมพันธุ์พืชสมุนไพรและภูมิปัญญาไทย จังหวัดนครราชสีมา
ไม่เคยคิดว่าจะต้องเขียนเรื่องนี้ แต่เมื่อวานได้รับโทรศัพท์จากคนๆหนึ่งฟังจากเสียงก็คงประมาณรุ่นลูก เค้าขึ้นต้นประโยคว่า "ใช่ที่ชื่อโอ่งไม๊คะ" ด้วยน้ำเสียงที่แข็งๆ หลังจากที่เราบอกว่าใช่อย่างงงๆเพราะดูแล้วก็คงไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่เจ้าหนี้ ไม่ใช่ลูกค้า ไม่ใช่ใครที่เรารู้จัก เค้าแนะนำตัวว่าเป็นนักศึกษาเรียนแพทย์แผนตะวันออก ( จากมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังที่ใครๆก็รู้จัก ) เค้าต้องการรู้เบอร์โทรของพ่อสง่าหมองู เพราะอยากจดสูตรยาสมุนไพรจากพ่อสง่า เราก็เลยให้เบอร์พี่พบพรหมอพื้นบ้านและนักอนุรักษ์ป่าหนึ่งในแกนนำสำคัญของอำเภอห้วยแถลงไปเพราะเราไม่มีเบอร์พ่อสง่าโดยตรง แต่มานั่งนึกทีหลังว่า เราอาจพลาดไปหน่อยตรงที่ไม่สกรีนคน เพราะดูลักษณะแล้ว คนที่อยากได้ความช่วยเหลือจากคนอื่นแต่เริ่มต้นด้วยประโยคแบบนี้ มันดูเสียมารยาทไปหน่อย รึอาจจะเสียมารยาทมากทีเดียว เพราะมีคำที่สุภาพกว่านี้อีกเยอะในการโทรศัพท์หาคนแปลกหน้า ที่เรากังวลก็คือ เวลาที่เค้าไปพบหมอพื้นบ้านเพื่อสัมภาษณ์ เค้าจะรู้จักมีมารยาทหรือนอบน้อมหรือให้เกียรติรึเปล่า การศึกษาไม่ได้บอกว่าคุณเหนือกว่าคนอื่น คุณไม่ได้มีค่าไปกว่าหมอพื้นบ้านที่ได้ช่วยชีวิตคนมากมาย มันคงต้องเริ่มปรับตั้งแต่ทัศนคติว่าหมอพื้นบ้านมีศักดิ์ศรีและมีเกียรติสมควรที่เราจะให้ความนับถือและเคารพ ถ้าเราจะไปหาควรไปด้วยความจริงใจที่จะขอเรียนรู้เพราะเห็นคุณค่าในภูมิปัญญาของท่าน และที่สำคัญที่สุด เราควรบันทึกชื่อของท่านในภูมิปัญญานั้นๆด้วย มีหลายๆคนนึกว่าตัวเองเป็นคนไปช่วยเก็บรวบรวมบันทึกเพื่อให้ภูมิปัญญานั้นคงอยู่ แต่จริงๆมันไม่จำเป็นเลย ไม่มีพวกคุณภูมิปัญญาก็อยู่มานานแล้วในกลุ่มของผู้สืบทอด ต่อไปนี้ถ้าไม่ใช่คนป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือ หรือสื่อมวลชนที่ต้องการยกย่องเชิดชูหมอพื้นบ้าน เราคงต้องคัดกรองคนที่จะขอเข้าพบหมอพื้นบ้านว่ามีจิตสำนึกหรือทัศนคติที่ถูกต้องหรือมีมารยาทหรือไม่ ไม่งั้นก็ไม่จำเป็นอะไรที่จะต้องไปรบกวนท่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น