วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558

ส้มป่อย ไม้มงคลล้างพิษล้างอาถรรพ์

โดย ปุณณภา  งานสำเร็จ
ศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาไทย  จังหวัดนครราชสีมา

ส้มป่อย ไม้มงคลล้างพิษล้างอาถรรพ์
สมุนไพรมงคล ขับพ้นสิ่งชั่วร้าย
ที่ชัยภูมิเกษตรกรนิยมฉีดยาฆ่ายาใช้สารเคมีกันมาก มีคนไข้ที่แพ้พิษสารเคมียาฆ่าหญ้า แขนขาหมดกำลัง ต้มกิ่่งส้มป่อยกินล้างพิษหายจากอาการแพ้พิษ
คนไทยใหญ่ใช้ฝักส้มป่อยในพิธีกรรมหลายอย่างโดยเฉพาะงานสะเดาะเคราะห์ เพราะเชื่อว่าส้มป่อยเป็นพืชศักดิ์สิทธิ์ ช่วยขจัดปลดปล่อยความโชคร้ายเคราะห์กรรมความอัปมงคลให้หลุดพ้นจากชีวิต ถ้าคนไหนไม่สบายใจไม่สบายตัวเจ็บไข้ เขาจะเอาส้มป่อยมาต้มอาบหรือล้างหัวล้างหน้า ถ้าไปดูดวงแล้วดวงตกหรือโชคไม่ค่อยดีเขาก็จะอาบน้ำส้มป่อย ถ้าเจอผีก็อาบส้มป่อย พิธีรดน้ำมนต์ส่วนมากก็ใช้น้ำฝักส้มป่อย รวมทั้งในงานมงคลเช่นงานบวชลูกแก้ว (บวชพระหรือเณร) น้ำส้มป่อยก็เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของการชำระล้างเนื้อตัวให้บริสุทธิ์ก่อนเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ส่วนใหญ่แล้วไทยใหญ่เรียกส้มป่อยว่า หมากขอน หรือ หม่าหัน

หม่าหัน…ตำนานแม่นากภาคไทยใหญ่
มีนิทานพื้นบ้านที่เกี่ยวกับหม่าหันว่า กาลครั้งหนึ่งมีผัวเมียข้าวใหม่ปลามันคู่หนึ่ง ตั้งบ้านเรือนอยู่ท้ายหมู่บ้าน ผัวต้องออกตระเวนไปค้าขายต่างถิ่นในขณะที่เมียกำลังตั้งท้อง ต่อมาเมียก็คลอดลูกตาย ในขณะที่เพื่อนบ้านจะเคลื่อนย้ายศพของเมียไปฝังที่ป่าช้านั้น ร่างคนตายก็ร่วงลงมาตรงบันไดบ้าน ตามธรรมเนียมชาวไทยใหญ่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้หมายถึงผู้ตายไม่อยากไปป่าช้า ชาวบ้านจึงนำศพฝังไว้ที่บ้าน เมื่อผัวกลับมาเป็นช่วงเวลากลางคืนก็พบเมียหุงหาสำรับกับข้าวไว้รอท่า ก็อยู่กินกันตามปกติ
รุ่งขึ้นผัวออกไปพบชาวบ้านคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน เพื่อนบ้านก็บอกว่าเมียแกคลอดลูกตาย แต่ชายหนุ่มหาเชื่อไม่ ปฏิเสธว่าไม่จริงก็ยังอยู่กินกันตามปกติ แต่เมื่อไปพบใครๆ ก็บอกเช่นนั้น จึงเริ่มสงสัยขึ้นมาบ้าง วันหนึ่งหลังกินข้าวเย็นเสร็จเรียบร้อย ผัวทำตะบันหมากตกลงไปใต้ถุนบ้านตั้งใจจะลงไปเก็บ เมียก็บอกว่าเดี๋ยวน้องไปเก็บให้ พอผัวคล้อยหลังได้เหลียวไปเห็นเมียเอาลิ้นไปม้วนเก็บตะบันตำหมากนั้นขึ้นมาบนเรือน พอแน่ใจแล้วว่าเมียของตนคงตายไปแล้วจริงๆ จึงออกอุบายบอกเมียว่าจะไปทำถ่ายเบาตรงนอกชาน แล้วรีบไปเจาะกระบอกไม้ไผ่ที่เก็บน้ำไว้ตรงนอกชานเพื่อให้เกิดเป็นเหมือนเสียงปัสสาวะ จากนั้นก็รีบวิ่งไปในหมู่บ้านแบบไม่คิดชีวิต
เมียเมื่อเห็นผัวปัสสาวะไม่เสร็จเสียทีจึงออกมาดูก็พบว่าผัวไม่อยู่แล้ว จึงวิ่งออกไปตะโกนเรียกหา ส่วนผัวเมื่อรู้ว่าเมียตามมาจึงรีบหลบในพุ่มของหมากขอน (ส้มป่อย) เมียมองไม่เห็นผัวที่หลบอยู่ใต้พุ่มหมากขอน วิ่งมาจนถึงหมู่บ้านไปพบบ้านช่างตีเหล็กกำลังตีเหล็กไฟลุกโชนอยู่ จึงถามว่าเห็นผัวของฉันไหม ช่างตีเหล็กรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ตายแล้ว จึงบอกว่าก้มลงซิ เมื่อหล่อนก้มลง ช่างตีเหล็กก็ใช้ฆ้อนที่เผาไฟลุกแดงตีลงไป สาวเจ้าก็ได้กลายเป็นหิ่งห้อยลอยตามหาผัวต่อไป นับแต่นั้นมาคนไทยใหญ่ก็จะเรียกหมากขอนว่าหม่าหัน ซึ่งแปลว่าไม่เห็น หมายถึงผีมองไม่เห็นนั่นเอง และเชื่อว่าหิ่งห้อยคือวิญญาณของเมียที่ตามหาผัวของตนเอง
นอกจากคนไทยใหญ่แล้วคนเฒ่าคนแก่ในภาคเหนือและภาคอีสานรวมถึงประเทศลาว ต่างใช้ฝักของส้มป่อยเพื่อปัดเป่าภัยร้ายเช่นกัน ดังเช่นในวันสงกรานต์ที่คนโบราณเชื่อกันว่าเป็นวันที่มีอาถรรพ์แรง เพราะเศียรของท้าวผกาพรหมอาจหล่นมาสู่โลกเกิดไฟประลัยกัลป์ได้ จึงต้องมีการรดน้ำดำหัวกันด้วยน้ำฝักส้มป่อย เพื่อล้างอาถรรพ์สร้างสวัสดิมงคล ใช้ในพิธีเสริมสิริมงคล พิธีไหว้ครู สะเดาะเคราะห์ แก้อาถรรพ์ไล่ภูตผีปีศาจ ใช้ล้างมือล้างหน้าหลังจากกลับจากงานศพ หรือใช้อาบน้ำศพเพื่อให้ผู้จากไปได้พบสิ่งดีสู่สุคติ หรือการฝักส้มป่อยติดตัวไปด้วยในงานเผาศพผีตายโหง เป็นต้น
การเก็บฝักส้มป่อยที่จะนำมาใช้ในการทำพิธีกรรมต่างๆ นั้นต้องเก็บในวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๔ จึงจะศักดิ์สิทธิ์ หรืออย่างน้อยก็ต้องไปเอาก่อนฟ้าร้องฝนตกลงมา เพราะหากฟ้าร้องฝนตกแล้วถือว่าไม่เป็นยา ไม่ขลัง ถือว่าข้ามปีไปแล้ว เมื่อได้เวลาเก็บชาวบ้านจะเลือกเก็บฝักส้มป่อยที่แก่จัด นำไปตากในกระด้งให้แห้งสนิท เก็บใส่ตะกร้าไว้ใช้ในพิธีกรรมต่างๆ ก่อนนำไปใช้นิยมนำฝักส้มป่อยไปผิงไฟพอให้สุก ส้มป่อยจะมี กลิ่นหอมเปรี้ยว ผู้ที่เคยล้างหน้าหรืออาบด้วยน้ำส้มป่อยแล้วย่อมรู้สึกได้ถึงความมีสิริมงคล เพราะกลิ่นหอมแทรกรสเปรี้ยวของส้มป่อยช่วยให้สดชื่นฟื้นชีวิตชีวาขึ้นมาในทันทีทันใด

ส้มป่อย สมุนไพรแห่งการขอลดโทษ…ทางธรรม
คนล้านนายังเชื่อว่าส้มป่อยเป็นสมุนไพรในการขอลดโทษทางธรรม กล่าวคือเมื่อทำผิดพลั้งไปอาทิเช่น ถ้าใครไปทำสิ่งไม่ดีที่เรียกว่า ขึด ทำให้ตนเจอะเจอความชั่วร้าย สิ่งที่ช่วยให้บรรเทาเบาบางลงคือน้ำส้มป่อย หรือครูอาจารย์ผู้มีเวทมนตร์คาถาที่นั่งผีปู่ย่า (คนทรง) เมื่อทำผิดข้อห้ามของครูอาจารย์หรือบรรพบุรุษที่เรียกกันว่า ผิดครู น้ำส้มป่อยก็จะช่วยให้ของขลังของดีมีในตัวได้ดังเดิม

ส้มป่อย สมุนไพรไล่เมฆมรสุม พายุร้าย
นอกจากจะใช้ส้มป่อยในการปลดปล่อยสิ่งชั่วร้ายและสร้างศิริมงคลให้กับตัวเองแล้ว คนกะเหรี่ยงและคนพื้นเมืองหลายพื้นที่ในภาคเหนือ ในคราที่พายุลมแรง ฝนฟ้าคะนอง ฟ้าแลบ ฟ้าร้องเปรี้ยงปร้างน่าหวาดกลัว เขาจะเผาฝักส้มป่อยให้เกิดเป็นควันโขมง สักพักทุกอย่างก็จะสงบลง ผู้ที่เคยเห็นเหตุการณ์ต่างยืนยันเช่นนั้น

ส้มป่อย ยาสระผมธรรมชาติ
แชมพูสระผมปัจจุบันทำจากสารเคมี ไม่ว่าสูตรไหนๆ ก็จะมีสรรพคุณในการชำระล้างน้ำมันธรรมชาติของเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมแห้ง เป็นรังแค ผมหงอกก่อนวัย สมัยก่อนคนในแถบเอเชีย ต่างใช้น้ำจากฝักส้มป่อยสระผมอันงามสลวย ปัจจุบันในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือยังมีการใช้อยู่

ในทางชีวเคมี ฝักส้มป่อยมีสารกลุ่มซาโปนิน (Zaponin) หลายชนิด เช่น สารอะคาซินินเอ (Acacinin A) และสารอะคาซินินบี (Acacinin B) รวมกันแล้วสูงถึงร้อยละ ๒๐ สารเหล่านี้เป็นแชมพูธรรมชาติที่เป็นกรดอ่อนๆ เหมาะที่จะใช้ในการสระผมอย่างยิ่ง ช่วยรักษารังแค ผมหงอกก่อนวัย เพียงเอาฝักส้มป่อยมาหักกวนตีกับน้ำแรงๆ สารซาโปนินจะแตกฟองที่คงทนมาก มีฤทธิ์ในการชำระล้างได้ดีโดยไม่ทำลายธรรมชาติของผมและผิวบนหนังศีรษะ
การอาบหรือแช่น้ำส้มป่อยทั้งตัวจะช่วยให้ร่างกายสะอาดปราศจากคราบไคล ช่วยให้สดชื่น แก้ผดผื่นคันในหน้าร้อน และโรคผิวหนังได้หลายชนิด ไม่เพียงแต่ผิวกายและหนังศีรษะเท่านั้น น้ำส้มป่อยยังใช้แช่และขัดเครื่องทองให้เหลืองอร่ามสุกปลั่งเหมือนทองใหม่ได้อีกด้วย
ส้มป่อย สุดยอดผักกำจัดพิษ ช่วยแก้ไอ
ใบส้มป่อยและฝักใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญของยาอบ ผลจากการที่มีรสเปรี้ยวช่วยขับเหงื่อ ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย ใบส้มป่อยยังใช้เป็นยาประคบ แทบทุกตำรับจะใช้ใบส้มป่อยเดี่ยวๆ หรือผสมสมุนไพรตัวอื่นใส่ในลูกประคบเพื่อแก้ปวดเมื่อย และยังนำใบส้มป่อยมาต้มดื่มได้ น้ำต้มใบส้มป่อยมีรสเปรี้ยวเป็นยาสตรีช่วยถ่ายระดูขาว ฟอกโลหิตประจำเดือนให้งาม ช่วยล้างเมือกมันในทางเดินอาหารและใช้เป็นยาระบาย ช่วยกำจัดพิษออกจากระบบทางเดินอาหาร ช่วยลดน้ำหนักได้เช่นกัน นอกจากนี้ความเปรี้ยวของส้มป่อยยังช่วยละลายเสมหะแก้ไอได้อีกด้วย
ดังนั้นส้มป่อยจึงเป็นสมุนไพรกำจัดพิษแบบไทยๆ อย่างดีทีเดียว ที่น่าสนใจคือใบของส้มป่อยถือเป็นผักที่มีวิตามินเอและเบต้าแคโรทีนสูงมากเป็นอันดับต้นๆ ผลจากการทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของยอดส้มป่อยพบว่ามีสูงมาก นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่าสารซาโปนินในฝักส้มป่อยทำให้ T cells ทำงานได้ดีขึ้นช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายดีขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น