รังนี้มีต่อเป็นร้อย ๆ ตัวเช้าเย็นบินว่อนเต็มบริเวณน่ากลัวมาก รังต่อมีทางเข้าออกหนึ่งถึงสองทาง นักล่าต่อจะรรอให้มืดสนิทแล้วจุดไฟรมเผายัดเข้าไปในรังจนตายทั้งหมดก่อนเก็บเอารังไปขายและเอาตัวอ่อนไปกิน
จริง ๆ ต้องถือว่าตัวต่อมีส่วนในการที่เราเบนเข็มมาศึกษาสมุนไพรเป็นอย่างมาก ตอนอยู่สถานีอนามัยช่วงปีหลัง ๆ ของการทำงานเจอคนไข้และเด็ก ๆ โดนต่อต่อยหลายราย แต่ละรายน่าสงสาร ปวดทรมาน ไข้ขึ้น หนาวสั่น แค่ผึ้งตัวเล็ก ๆ ต่อยเรายังปวดแปล๊บเข้าหัวใจ ใคร ๆ ก็รูว่าพิษต่อโหดกว่านั้นหลายเท่านัก แต่ที่เรากังวลที่สุดคือ อาการ anaphylactic shock เขียนถูกป่ะไม่รู้ชักขี้เกียจค้น คืออาการช๊อคอย่างเฉียบพลันของผู้ป่วยที่ทำให้ทางเดินหายใจอุดตันและถึงแก่ชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว ต้องแก้ด้วย adrenaline ฉีดทันที ซึ่งตัวยาเองก็มีอันตรายพอ ๆ กันต้องกะขนาดให้พอดี ถ้าฉีดเกินขนาด คนไข้ก็มีสิทธิเสียชีวิตเพราะยาอีกเช่นกัน นั่นเป็นจุดเปลี่ยนให้เราตัดสินใจย้ายจากสถานีอนามัยเปลี่ยนตัวเองจากงานรักษาพยาบาลมาเป็นงานสำรวจรวบรวม้อมูลและเผยแพร่ข้อมูลด้านสมุนไพร ต้องมีทางเลือกอื่นซิน่า
มาทำเรื่องของสมุนไพรเราก็สนใจสมุนไพรแก้พิษเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นพิษสัตว์ พิษพืช พืชสารเคมี จริง ๆก็มาจบง่ายที่หลาย ๆ พิษแก้ได้ด้วยรางจืดดอกสีม่วง และน้ำกระสายที่ดีที่สุดคือน้ำซาวข้าว (จากงานวิจัยมีการเปรียบเทียบน้ำกระสายสำหรับแก้สัตว์พิษสรุปไว้ว่าเป็นน้ำมะนาว ) แต่เราคงไม่ได้เตรียมน้ำซาวข้าวไว้แน่ ก็ตำข้าวสาร ( อันนี้ยังไงคงมีติดบ้านไว้ ) ผสมกับใบรางจืด ละลายกับน้ำพอกินซักหนึ่งแก้ว แล้วพอกทาทั่วตัว อสม.ที่นี่เคยรักษาได้ถึงพิษงูเขียวหางไหม้ ซึ่งคนที่แพ้พิษงูนี้กำลังเริ่มมีอาการแน่นเข้าหัวใจแล้ว ให้รอดตายมาได้
พูดถึงประสบการณ์เรื่องแมลงมีพิษ นึกถึงตอนที่ลูกชายตัวเองเจ้าหยกอายุซักสามขวบ เดินเล่นอยู่ในบ้านแล้วกรีดร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ( ความทรมานของลูกบาดหัวใจไม่เคยลืม ) เค้าบอกตามประสาเด็กว่าโดนตัวไรไม่รู้กัดข้างหู คงไม่มีเวลาสืบเสาะว่าเป็นตัวอะไร เพราะเรื่องพิษเป็นการทำงานแข่งกับเวลา ยิ่งพิษซ่านไปทั่วร่างกายยิ่งปวดมากและรักษายากขึ้น เราตำกระเทียมหนึ่งหัว บีบมะนาวพอกตรงบริเวณที่คาดว่าโดน หยกเงียบเสียงและหยุดเจ็บปวดในเวลาไม่นาน คงพอเป็นทางเลือกของคนที่ไม่ได้มียาอะไรอยู่ใกล้ตัว พอหยิบฉวยอะไรได้ก็ต้องลองดู จริง ๆ เราว่าคงเป็นเพราะน้ำมะนาว พิษของแมลงพวกนี้อาจมีฤทธิ์เป็นด่าง พอเจอกรดจากมะนาวเลยแก้กัน ที่พูดอย่างนี้เพราะเท่าที่สัมภาษณ์ชาวบ้านในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเวลาโดนแมลงกัดต่อย หลายสูตรใช้ต้นไม้ใกล้ตัวร่วมกับน้ำมะนาว
มาว่ากันถึงตัวต่ออีกครั้ง เด็ก ๆ ที่มักโดนตัวต่อต่อย เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไปขว้างปารังต่อตามต้นไม้ โดยรู้จักหรือไม่รู้จักก็แล้วแต่ แล้วเลยโดนตัวต่อรุมเข้า ที่สำคัญต่อต่างจากผึ้งตรงที่ผึ้งต่อยแล้วทิ้งเหล็กไน ( ต่อยได้ทีเดียวตัวเองต้องตาย ) แต่ต่อตัวเดียวสามารถต่อยได้ซ้ำแล้วซ้ำอีกเพราะไม่ทิ้งเหล็กไน
เราอยากบอกสูตรยาหม่องสมุนไพรอีกซักครั้งที่เราพบโดยบังเอิญว่าสามารถรักษาพิษแมลงสัตว์กัดต่อยได้ชะงัดนัก
จริง ๆ เราพาอสม.ทำยาหม่องสูตรนี้เพื่อใช้รักษาอาการปวดเมื่อยธรรมดา แต่โชคดีที่สามารถใช้รักษาพิษแมลงได้ด้วย เราอยากให้ทุกคนทำติดตัว ติดบ้านไว้ โรคบางโรคเราหวังพึ่งแต่หมอไม่ได้ โดยเฉพาะการแพ้พิษถ้าไปไม่ถึง ไปไม่ทัน หมอเทวดาก็ช่วยไม่ทัน
วิธีทำ ใช้ไพลสดแก่ ๆ อายุสองปีขึ้นไปฝานเป็นแผ่นบางๆ ๑ กิโลกรัม ( อยากได้ไพลคุณภาพดีที่ปลูกบนที่สูง เพราะพืชลงหัวเช่น ข่า ขิง ขมิ้น ไพล กระชาย พืชพวกนี้ปลูกได้ดีในที่สูงและสรรพคุณทางยาจะดีที่สุดในหน้าแล้ง ประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงก่อนฝนตก พืชจะลงหัวยุบต้น สารสำคัญทั้งหมดจะรวมกันอยู่ที่หัวของพืช ลองโทรสั่งไอ้บ๊ะมันเป็นลูกหมอสมุนไพรบ้านวังน้ำเขียว บ้านมันปลูกไพลไว้เยอะ เป็นเด็กนิสัยดี โตมากับป่า ติดเบอร์มันไว้ก่อน) ทอดในน้ำมันพืชยี่ห้อไรก็ได้ ๑ ลิตร กะ ๆ เอาก็ได้ว่าเวลาทอดน้ำมันพอท่วมไพลมิดน่ะ ทอดด้วยไฟอ่อน ๆ ๒ ถึง ๓ ชั่วโมง ไม่จำเป็นต้องคนบ่อย จนไพลแห้งกรอบเหมือนมันฝรั่งทอด และน้ำสมุนไพรที่ได้เป็นสีเหลือง จะใส่ขมิ้นฝานเป็นแว่น ๆเพิ่มลงไปพร้อมไพล หรือใส่ฟ้าทะลายโจรทั้งต้น บัวบก รึอะไรที่พอนึก ได้ ใส่ ๆ ลงไป ก่อนจะยกน้ำมันออกจากเตา ก็ไส่กานพลู(เป็นเครื่องเทศที่ใช้ใส่เครื่องพะโล้และอาหารแขก ๆ มีขายตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป ) ตัวนี้ป้องกันน้ำมันเสียมีกลิ่นหื่น ซักหยิบมือกะ ๆ เอา แล้วใส่การบูรมากน้อยตามสะดวก เอาซักครึ่งของอันละสิบบาทยี่สิบบาทที่ขายไว้แขวนหน้ารถก็ได้ ใส่ช่วงที่น้ำมันเริ่มอุ่นแล้ว ( ใส่ตอนร้อนระเหิดหมด ) กรองเอาแต่น้ำมันเก็บใส่ขวดสีชาเก็บไว้ใช้ได้นานเป็นปี น้ำมันนี้เรียกว่าน้ำมันไพลเอาไว้นวด ขวดสีชาช่วยให้ไม่โดนแสงโดยตรงเพราะสีเหลืองของน้ำมันไพลจางไวมาก ถ้าไม่มีอะไรก็ทอดแค่ไพลเพียว ๆ เก็บใส่ขวดไว้ก็ไม่ผิดกติกานะ
จากนั้นไปหาส่วนผสมของยาหม่องตามร้านขายยาสมุนไพรรึร้านเคมีภัณฑ์ รึไม่งั้นก็ซื้อยาหม่องยี่ห่ออะไรก็ได้มาซักขวดสองขวด เอาน้ำร้อนเทใส่ชามเอายาหม่องแช่น้ำร้อนจนละลายกลายเป็นน้ำเทออกจากขวดซักครึ่งหนึ่งรึหนึ่งในสาม เทใส่ตลับรึขวดเหลือ ๆ ใช้เก็บไว้ เอาน้ำมันสมุนไพรที่ทอดเก็บไว้ลงไปผสม เอาไม้จิ้มฟันลงไปคน ๆ ให้เข้ากันดี ถ้ามีพิมเสนน้ำที่ซื้อ ๆ เก็บไว้ซักขวด สองขวดก็ผสม ๆ ลงไปซักกะหน่อย จะได้มีกลิ่นหอม ๆ รีบปิดฝาตั้งทิ้งไว้ ให้มันแข็งตัวคืน เนื้อยาหม่องที่ได้จะค่อนข้างเหลวจากน้ำมันสมุนไพรที่ใส่เพิ่มลงไป กลิ่นตามกลิ่นเดิมของยาหม่องรึกลิ่นพิมเสนน้ำที่เพิ่มไป เก็บติดบ้นไว้เป็นยาสามัญประจำบ้านสำหรับพิษต่อ แตน แมลงป่อง แมงมุม ผึ้ง หมาร่า บุ้ง รึแม้แต่แมงกระพรุนไฟ ฯลฯ ตามประสบการณ์ใช้รักษาพิษแมงป่องไม่ถึงครึ่งนาทีคนไข้หายปวด ต่อนานหน่อยและใช้ร่วมกับยาฉีด ผึ้งกับบุ้งนี่แม่เราใช้ประจำ งูเขียวหางไหม้เคยทาให้คนไข้สังเกตอาการดูคนไข้ดีขึ้น แต่ยังต้องใช้ร่วมกับยาอย่างอื่น เคยส่งให้พี่ชายที่ทำงานอยู่กับทะเล ลูกน้องโดนแมลงกระพรุนไฟ ก็ว่าช่วยระงับพิษได้ดี ( อะไรจะขนาดนั้น ) ทำ ๆ ไว้เถอะแล้วก็ไม่ต้องไปกังวลเรื่องสูตรมากนัก เราไม่เคยช่างตวงวัดเลย แต่ละล๊อตที่ออกมาหน้าตาเลยเป็นเอกลักษณ์มาก 555 อยากให้เนื้อยาหม่องเหลวรึแข็งก็ทดสอบดูตอนร้อน ๆ เราหยอดดูเล่นเหมือนหยอดกาละแม ถ้าแข็งไปก็เติมน้ำมันสมุนไพรเพิ่ม ถ้าเหลวไปก็อเติมเนื้อยาหม่องเพิ่ม เติมไปเติมมาอยู่นี่แหล่ะจนกว่าจะพอใจรึจนกว่าม่มีรัยให้เติม ทำเก็บ ๆ ไว้เถอะ ได้ใช้แม้เพียงครั้งเดียวก็เกินคุ้ม เอาไว้ช่วยเหลือเพื่อนบ้านคนรอบตัวก็ได้บุญ ทำแจก ๆ พี่น้องด้วยหัวใจรักและห่วงใยก็ไม่เสียชาติเกิด ว่าไปนั่น แต่ถ้าทำขายต้องมีใบประกอบโรคศิลปสาขาเภสัชกรรมไทย ไม่อยากบอกว่าในอีเบย์ ยาหม่องไทยยี่ห้อหนึ่งเป็นที่นิยมของฝรั่งมาก ๆ มันออร์เดอร์ทีละเยอะ ๆ เลย ดีใจกับสมุนไพรไทยด้วย
กลับมาที่ประโยชน์ของตัวต่อและรังต่อกันบ้าง
ต่อ Polistes mandarinus Saussure
ลักษณะ
แมลงมีปีกลำตัวขอดกลาง ลายปล้องสีเหลืองสลับดำ ตัวอ้วน ก้นแหลม มีเหล็กไนและน้ำพิษ มีพิษรุนแรง ทำอันตรายแก่คนและสัตว์ถึงชีวิตได้ รังมีรูปร่างไม่แน่นอน เช่น เป็นแผ่น รูปเจดีย์ รูปฝักบัว ทรงกลมคล้ายหัวเสือ เนื้อเหมือนกระดาษฟางสีน้ำตาลเทาขาว กลิ่นเฉพาะตัว นำมานึ่งให้สุก เอาตัวอ่อนออกให้หมด ตากแห้งตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ โรยเกลือเล็กน้อย เก็บไว้ทำยา
รังต่อ รสหวานสุขุม มีพิษ ขับลม ถอนพิษ ขับพยาธิ แก้อาการชา แก้ฝีหนอง แก้วัณโรคต่อมน้ำเหลืองระยะเริ่มแรก แก้ฝีชอนทะลุก้น แก้บิด แก้โรคจู๋ แก้ปัสสาวะไหลไม่รู้ตัว
ตัวอ่อน รสหวานเย็น มีพิษ แก้แน่นหน้าอก แน่นท้อง อาเจียนแต่ลมเปล่า
ห้ามใช้ในรายที่ร่างกายอ่อนแอ เลือดน้อย โลหิตจาง และห้ามใช้ร่วมกับขิง ตันเซิน จี่เย้า และเปลือกหอยนางรม
( หนังสือ เครื่องยาไทย ๑ ของ อาจารย์วุฒิ วุฒิธรรมเวช มีจำหน่ายตามร้านหนังสือซีเอด หรือปรึกษาอาจารย์ได้ที่ คลินิกธรรมเวชแพทย์แผนไทย ๐๒-๔๒๐๖๙๘๑,๐๘๑-๘๔๕๙๙๖๗ )
วันหน้าจะได้พูดคุยกันถึงอาจารย์วุฒิที่ท่านน่ารักมาก และเก่งมากด้วย เป็นมายไอดอลคนหนึ่งของเราเลย
อ๊ะจ๊ากกกก หารูปรังต่อไม่เจอ ถ่ายไว้ตั้งเยอะ โอ๊ยหงุดหงิด หายไปได้ไง แง้ๆๆๆๆๆ ติดไว้ก่อนนะ ขอเราไปคุ้ยในกรุสมบัติบ้าเปงพัน ๆ รูปของเราก่อน โอ๊ยรมณ์เสีย เจอแว้วววว
มาทำเรื่องของสมุนไพรเราก็สนใจสมุนไพรแก้พิษเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นพิษสัตว์ พิษพืช พืชสารเคมี จริง ๆก็มาจบง่ายที่หลาย ๆ พิษแก้ได้ด้วยรางจืดดอกสีม่วง และน้ำกระสายที่ดีที่สุดคือน้ำซาวข้าว (จากงานวิจัยมีการเปรียบเทียบน้ำกระสายสำหรับแก้สัตว์พิษสรุปไว้ว่าเป็นน้ำมะนาว ) แต่เราคงไม่ได้เตรียมน้ำซาวข้าวไว้แน่ ก็ตำข้าวสาร ( อันนี้ยังไงคงมีติดบ้านไว้ ) ผสมกับใบรางจืด ละลายกับน้ำพอกินซักหนึ่งแก้ว แล้วพอกทาทั่วตัว อสม.ที่นี่เคยรักษาได้ถึงพิษงูเขียวหางไหม้ ซึ่งคนที่แพ้พิษงูนี้กำลังเริ่มมีอาการแน่นเข้าหัวใจแล้ว ให้รอดตายมาได้
พูดถึงประสบการณ์เรื่องแมลงมีพิษ นึกถึงตอนที่ลูกชายตัวเองเจ้าหยกอายุซักสามขวบ เดินเล่นอยู่ในบ้านแล้วกรีดร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ( ความทรมานของลูกบาดหัวใจไม่เคยลืม ) เค้าบอกตามประสาเด็กว่าโดนตัวไรไม่รู้กัดข้างหู คงไม่มีเวลาสืบเสาะว่าเป็นตัวอะไร เพราะเรื่องพิษเป็นการทำงานแข่งกับเวลา ยิ่งพิษซ่านไปทั่วร่างกายยิ่งปวดมากและรักษายากขึ้น เราตำกระเทียมหนึ่งหัว บีบมะนาวพอกตรงบริเวณที่คาดว่าโดน หยกเงียบเสียงและหยุดเจ็บปวดในเวลาไม่นาน คงพอเป็นทางเลือกของคนที่ไม่ได้มียาอะไรอยู่ใกล้ตัว พอหยิบฉวยอะไรได้ก็ต้องลองดู จริง ๆ เราว่าคงเป็นเพราะน้ำมะนาว พิษของแมลงพวกนี้อาจมีฤทธิ์เป็นด่าง พอเจอกรดจากมะนาวเลยแก้กัน ที่พูดอย่างนี้เพราะเท่าที่สัมภาษณ์ชาวบ้านในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเวลาโดนแมลงกัดต่อย หลายสูตรใช้ต้นไม้ใกล้ตัวร่วมกับน้ำมะนาว
มาว่ากันถึงตัวต่ออีกครั้ง เด็ก ๆ ที่มักโดนตัวต่อต่อย เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไปขว้างปารังต่อตามต้นไม้ โดยรู้จักหรือไม่รู้จักก็แล้วแต่ แล้วเลยโดนตัวต่อรุมเข้า ที่สำคัญต่อต่างจากผึ้งตรงที่ผึ้งต่อยแล้วทิ้งเหล็กไน ( ต่อยได้ทีเดียวตัวเองต้องตาย ) แต่ต่อตัวเดียวสามารถต่อยได้ซ้ำแล้วซ้ำอีกเพราะไม่ทิ้งเหล็กไน
เราอยากบอกสูตรยาหม่องสมุนไพรอีกซักครั้งที่เราพบโดยบังเอิญว่าสามารถรักษาพิษแมลงสัตว์กัดต่อยได้ชะงัดนัก
จริง ๆ เราพาอสม.ทำยาหม่องสูตรนี้เพื่อใช้รักษาอาการปวดเมื่อยธรรมดา แต่โชคดีที่สามารถใช้รักษาพิษแมลงได้ด้วย เราอยากให้ทุกคนทำติดตัว ติดบ้านไว้ โรคบางโรคเราหวังพึ่งแต่หมอไม่ได้ โดยเฉพาะการแพ้พิษถ้าไปไม่ถึง ไปไม่ทัน หมอเทวดาก็ช่วยไม่ทัน
วิธีทำ ใช้ไพลสดแก่ ๆ อายุสองปีขึ้นไปฝานเป็นแผ่นบางๆ ๑ กิโลกรัม ( อยากได้ไพลคุณภาพดีที่ปลูกบนที่สูง เพราะพืชลงหัวเช่น ข่า ขิง ขมิ้น ไพล กระชาย พืชพวกนี้ปลูกได้ดีในที่สูงและสรรพคุณทางยาจะดีที่สุดในหน้าแล้ง ประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงก่อนฝนตก พืชจะลงหัวยุบต้น สารสำคัญทั้งหมดจะรวมกันอยู่ที่หัวของพืช ลองโทรสั่งไอ้บ๊ะมันเป็นลูกหมอสมุนไพรบ้านวังน้ำเขียว บ้านมันปลูกไพลไว้เยอะ เป็นเด็กนิสัยดี โตมากับป่า ติดเบอร์มันไว้ก่อน) ทอดในน้ำมันพืชยี่ห้อไรก็ได้ ๑ ลิตร กะ ๆ เอาก็ได้ว่าเวลาทอดน้ำมันพอท่วมไพลมิดน่ะ ทอดด้วยไฟอ่อน ๆ ๒ ถึง ๓ ชั่วโมง ไม่จำเป็นต้องคนบ่อย จนไพลแห้งกรอบเหมือนมันฝรั่งทอด และน้ำสมุนไพรที่ได้เป็นสีเหลือง จะใส่ขมิ้นฝานเป็นแว่น ๆเพิ่มลงไปพร้อมไพล หรือใส่ฟ้าทะลายโจรทั้งต้น บัวบก รึอะไรที่พอนึก ได้ ใส่ ๆ ลงไป ก่อนจะยกน้ำมันออกจากเตา ก็ไส่กานพลู(เป็นเครื่องเทศที่ใช้ใส่เครื่องพะโล้และอาหารแขก ๆ มีขายตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป ) ตัวนี้ป้องกันน้ำมันเสียมีกลิ่นหื่น ซักหยิบมือกะ ๆ เอา แล้วใส่การบูรมากน้อยตามสะดวก เอาซักครึ่งของอันละสิบบาทยี่สิบบาทที่ขายไว้แขวนหน้ารถก็ได้ ใส่ช่วงที่น้ำมันเริ่มอุ่นแล้ว ( ใส่ตอนร้อนระเหิดหมด ) กรองเอาแต่น้ำมันเก็บใส่ขวดสีชาเก็บไว้ใช้ได้นานเป็นปี น้ำมันนี้เรียกว่าน้ำมันไพลเอาไว้นวด ขวดสีชาช่วยให้ไม่โดนแสงโดยตรงเพราะสีเหลืองของน้ำมันไพลจางไวมาก ถ้าไม่มีอะไรก็ทอดแค่ไพลเพียว ๆ เก็บใส่ขวดไว้ก็ไม่ผิดกติกานะ
จากนั้นไปหาส่วนผสมของยาหม่องตามร้านขายยาสมุนไพรรึร้านเคมีภัณฑ์ รึไม่งั้นก็ซื้อยาหม่องยี่ห่ออะไรก็ได้มาซักขวดสองขวด เอาน้ำร้อนเทใส่ชามเอายาหม่องแช่น้ำร้อนจนละลายกลายเป็นน้ำเทออกจากขวดซักครึ่งหนึ่งรึหนึ่งในสาม เทใส่ตลับรึขวดเหลือ ๆ ใช้เก็บไว้ เอาน้ำมันสมุนไพรที่ทอดเก็บไว้ลงไปผสม เอาไม้จิ้มฟันลงไปคน ๆ ให้เข้ากันดี ถ้ามีพิมเสนน้ำที่ซื้อ ๆ เก็บไว้ซักขวด สองขวดก็ผสม ๆ ลงไปซักกะหน่อย จะได้มีกลิ่นหอม ๆ รีบปิดฝาตั้งทิ้งไว้ ให้มันแข็งตัวคืน เนื้อยาหม่องที่ได้จะค่อนข้างเหลวจากน้ำมันสมุนไพรที่ใส่เพิ่มลงไป กลิ่นตามกลิ่นเดิมของยาหม่องรึกลิ่นพิมเสนน้ำที่เพิ่มไป เก็บติดบ้นไว้เป็นยาสามัญประจำบ้านสำหรับพิษต่อ แตน แมลงป่อง แมงมุม ผึ้ง หมาร่า บุ้ง รึแม้แต่แมงกระพรุนไฟ ฯลฯ ตามประสบการณ์ใช้รักษาพิษแมงป่องไม่ถึงครึ่งนาทีคนไข้หายปวด ต่อนานหน่อยและใช้ร่วมกับยาฉีด ผึ้งกับบุ้งนี่แม่เราใช้ประจำ งูเขียวหางไหม้เคยทาให้คนไข้สังเกตอาการดูคนไข้ดีขึ้น แต่ยังต้องใช้ร่วมกับยาอย่างอื่น เคยส่งให้พี่ชายที่ทำงานอยู่กับทะเล ลูกน้องโดนแมลงกระพรุนไฟ ก็ว่าช่วยระงับพิษได้ดี ( อะไรจะขนาดนั้น ) ทำ ๆ ไว้เถอะแล้วก็ไม่ต้องไปกังวลเรื่องสูตรมากนัก เราไม่เคยช่างตวงวัดเลย แต่ละล๊อตที่ออกมาหน้าตาเลยเป็นเอกลักษณ์มาก 555 อยากให้เนื้อยาหม่องเหลวรึแข็งก็ทดสอบดูตอนร้อน ๆ เราหยอดดูเล่นเหมือนหยอดกาละแม ถ้าแข็งไปก็เติมน้ำมันสมุนไพรเพิ่ม ถ้าเหลวไปก็อเติมเนื้อยาหม่องเพิ่ม เติมไปเติมมาอยู่นี่แหล่ะจนกว่าจะพอใจรึจนกว่าม่มีรัยให้เติม ทำเก็บ ๆ ไว้เถอะ ได้ใช้แม้เพียงครั้งเดียวก็เกินคุ้ม เอาไว้ช่วยเหลือเพื่อนบ้านคนรอบตัวก็ได้บุญ ทำแจก ๆ พี่น้องด้วยหัวใจรักและห่วงใยก็ไม่เสียชาติเกิด ว่าไปนั่น แต่ถ้าทำขายต้องมีใบประกอบโรคศิลปสาขาเภสัชกรรมไทย ไม่อยากบอกว่าในอีเบย์ ยาหม่องไทยยี่ห้อหนึ่งเป็นที่นิยมของฝรั่งมาก ๆ มันออร์เดอร์ทีละเยอะ ๆ เลย ดีใจกับสมุนไพรไทยด้วย
กลับมาที่ประโยชน์ของตัวต่อและรังต่อกันบ้าง
ต่อ Polistes mandarinus Saussure
ลักษณะ
แมลงมีปีกลำตัวขอดกลาง ลายปล้องสีเหลืองสลับดำ ตัวอ้วน ก้นแหลม มีเหล็กไนและน้ำพิษ มีพิษรุนแรง ทำอันตรายแก่คนและสัตว์ถึงชีวิตได้ รังมีรูปร่างไม่แน่นอน เช่น เป็นแผ่น รูปเจดีย์ รูปฝักบัว ทรงกลมคล้ายหัวเสือ เนื้อเหมือนกระดาษฟางสีน้ำตาลเทาขาว กลิ่นเฉพาะตัว นำมานึ่งให้สุก เอาตัวอ่อนออกให้หมด ตากแห้งตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ โรยเกลือเล็กน้อย เก็บไว้ทำยา
รังต่อ รสหวานสุขุม มีพิษ ขับลม ถอนพิษ ขับพยาธิ แก้อาการชา แก้ฝีหนอง แก้วัณโรคต่อมน้ำเหลืองระยะเริ่มแรก แก้ฝีชอนทะลุก้น แก้บิด แก้โรคจู๋ แก้ปัสสาวะไหลไม่รู้ตัว
ตัวอ่อน รสหวานเย็น มีพิษ แก้แน่นหน้าอก แน่นท้อง อาเจียนแต่ลมเปล่า
ห้ามใช้ในรายที่ร่างกายอ่อนแอ เลือดน้อย โลหิตจาง และห้ามใช้ร่วมกับขิง ตันเซิน จี่เย้า และเปลือกหอยนางรม
( หนังสือ เครื่องยาไทย ๑ ของ อาจารย์วุฒิ วุฒิธรรมเวช มีจำหน่ายตามร้านหนังสือซีเอด หรือปรึกษาอาจารย์ได้ที่ คลินิกธรรมเวชแพทย์แผนไทย ๐๒-๔๒๐๖๙๘๑,๐๘๑-๘๔๕๙๙๖๗ )
วันหน้าจะได้พูดคุยกันถึงอาจารย์วุฒิที่ท่านน่ารักมาก และเก่งมากด้วย เป็นมายไอดอลคนหนึ่งของเราเลย
อ๊ะจ๊ากกกก หารูปรังต่อไม่เจอ ถ่ายไว้ตั้งเยอะ โอ๊ยหงุดหงิด หายไปได้ไง แง้ๆๆๆๆๆ ติดไว้ก่อนนะ ขอเราไปคุ้ยในกรุสมบัติบ้าเปงพัน ๆ รูปของเราก่อน โอ๊ยรมณ์เสีย เจอแว้วววว